Facebook Pixel
Logo
หน้าหลัก   Breadcrumb right  บทความ   Breadcrumb right  Dividend yield คือ

หุ้น

Dividend Yield คืออะไร? วิธีคำนวณและวิเคราะห์ผลตอบแทน

เขียนโดย Itsariya Doungnet

อัปเดตแล้ว 31 ตุลาคม 2025

dividend-yield-คือ

สารบัญ

    หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Dividend yield คือ ตัวเลขสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างมาก แต่ทำไมตัวเลขนี้ถึงส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนได้ขนาดนั้น? และทำไมการเข้าใจเรื่องนี้จึงสำคัญสำหรับคนที่ลงทุนในหุ้น? Dividend yield เป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ช่วยบอกว่าเราจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลเท่าไรเมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ถืออยู่ บทความนี้จะพาไปรู้จักวิธีคำนวณและแนวทางวิเคราะห์ Dividend yield เพื่อช่วยให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สาระสำคัญ

    • Dividend Yield คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเทียบกับราคาหุ้น

    • Dividend Yield สามารถคำนวณได้ เพียงนำเงินปันผลต่อหุ้นหารด้วยราคาหุ้นปัจจุบันแล้วคูณ 100

    • Dividend Yield สูงบ่งชี้ผลตอบแทนดี แต่ต้องดูความมั่นคงของบริษัทควบคู่กัน

    • การลงทุนหุ้นปันผลช่วยสร้างรายได้สม่ำเสมอ แต่ต้องระวังความเสี่ยงจาก Dividend Yield สูงเกินไป

    ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง

    ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

    เปิดบัญชีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    Dividend yield คืออะไร?

    Dividend yield คือ ส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทจ่ายคืนให้ผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลเมื่อมีกำไรและได้รับการอนุมัติ ผู้ที่ถือหุ้นในวันที่กำหนดจะได้รับเงินปันผลตามสัดส่วนหุ้นของตน

    ข้อดีของการได้รับ Dividend yield คือ นักลงทุนจะมีรายได้สม่ำเสมอ ไม่ต้องขายหุ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้น และบ่งบอกถึงความมั่นคงของบริษัท นอกจากนี้ เงินปันผล ยังช่วยเพิ่มผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในหุ้นให้สูงขึ้นอีกด้วย

     

    อัตราผลตอบแทนจาก Dividend Yield คืออะไร?

    Dividend Yield คือ อัตราส่วนที่แสดงผลตอบแทนจากเงินปันผล เมื่อเทียบกับราคาหุ้น ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรายได้จากเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ ตัวเลขนี้สำคัญเพราะช่วยในการเลือกหุ้นที่เหมาะกับการสร้างรายได้แบบ Passive Income และการลงทุนระยะยาว

    หุ้นที่มี Dividend Yield สูงมักให้รายได้ปันผลสม่ำเสมอและความมั่นคงในระยะยาว การเข้าใจ Dividend Yield จึงช่วยให้นักลงทุนวางแผนลงทุนได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ต่อเนื่องและมั่นคง

     

    วิธีคำนวณ Dividend Yield

    การคำนวณ Dividend Yield ช่วยให้นักลงทุนรู้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างชัดเจน ทำให้ตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้นและแม่นยำกว่าเดิม

     

    วิธีหาค่า Dividend Yield:

    • เงินปันผลต่อหุ้น (Dividend per Share) คือ จำนวนเงินปันผลที่บริษัทจ่ายต่อหุ้นในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ต่อปี)

    • ราคาหุ้นปัจจุบัน (Market Price) คือ ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาด ณ ปัจจุบัน

     

    การอ่านค่าและตีความผลลัพธ์:

    ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในรูปเปอร์เซ็นต์ ยิ่งตัวเลขสูงแสดงว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง นักลงทุนจึงได้รับรายได้จากเงินปันผลมากขึ้นเมื่อเทียบกับราคาหุ้น อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาควบคู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความมั่นคงของบริษัทและแนวโน้มกำไร เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ

     

    Dividend Yield ควรได้เท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่าคุ้ม?

    ค่า Dividend Yield ทั่วไปแล้ว จะอยู่ระหว่างประมาณ 3-6% ถือว่าเป็นระดับที่ดี เพราะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และบางกองทุนรวมที่เน้นความปลอดภัย หาก Dividend Yield สูงเกิน 8-10% อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าหุ้นตัวนั้นมีความเสี่ยง เช่น กำไรของบริษัทอาจไม่มั่นคง หรือ ราคาหุ้นตกต่ำจนทำให้อัตรานี้ดูสูงเกินจริง

    การเปรียบเทียบ Dividend Yield กับดอกเบี้ยเงินฝากหรือผลตอบแทนกองทุนรวมช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลคุ้มหรือไม่ และช่วยในการตัดสินใจเลือกลงทุน อย่างไรก็ตาม การไล่ตาม Dividend Yield ที่สูงเกินไปโดยไม่พิจารณาความเสี่ยงอาจทำให้นักลงทุนเจอกับผลตอบแทนที่ไม่ยั่งยืน หรือ ขาดทุนจากราคาหุ้นที่ลดลง

     

    ประเภทของ Dividend Yield มีอะไรบ้าง?

    Dividend Yield มีหลายประเภทตามลักษณะของหุ้นและการจ่ายเงินปันผล ซึ่งหลัก ๆ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

     

    Dividend Yield แบบปกติ (Current Dividend Yield)

    Dividend Yield แบบปกติ เป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่บริษัทจ่ายในปีปัจจุบันหรือปีล่าสุด เทียบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน สูตรคำนวณง่ายและสะท้อนผลตอบแทนในช่วงเวลาปัจจุบัน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการประเมินผลตอบแทนเงินปันผลแบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามราคาหุ้นที่ผันผวนในตลาด

     

    Dividend Yield แบบย้อนหลัง (Trailing Dividend Yield)

    Dividend Yield แบบย้อนหลัง คำนวณจากเงินปันผลที่จ่ายจริงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยนำเงินปันผลรวมมาหารด้วยราคาหุ้นปัจจุบัน วิธีนี้ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงในอดีต และสามารถใช้เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้ดี แต่ไม่รับประกันว่าเงินปันผลจะจ่ายในระดับเดียวกันในอนาคต

     

    Dividend Yield แบบคาดการณ์ (Forward Dividend Yield)

    Dividend Yield แบบคาดการณ์ เป็นการประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดว่าจะจ่ายในอนาคต ซึ่งข้อมูลมักได้จากประมาณการของบริษัทหรือผู้วิเคราะห์ โดยเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน วิธีนี้ช่วยนักลงทุนวางแผนล่วงหน้าและตัดสินใจลงทุนบนพื้นฐานของคาดการณ์ผลตอบแทนในอนาคต แต่ก็มีความเสี่ยงหากบริษัทจ่ายเงินปันผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

     

    การทำงานของระบบจ่าย Dividend yield เป็นยังไง?

    การจ่าย Dividend yield คือ กระบวนการที่บริษัทมอบผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากกำไรให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้

     

    การประกาศจ่ายเงินปันผล

    บริษัทจะจัดประชุมคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาผลประกอบการและกำไรสะสม จากนั้นจะอนุมัติจำนวนเงินปันผลที่เหมาะสมกับสถานะการเงินและนโยบายการจ่ายเงินปันผล พร้อมทั้งกำหนดวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันขึ้นสิทธิรับเงินปันผล และวันจ่ายเงินปันผล เพื่อแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบอย่างชัดเจน

     

    วันขึ้นสิทธิรับเงินปันผล (Record Date)

    วันขึ้นสิทธิรับเงินปันผล เป็นวันที่บริษัทกำหนดเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล โดยผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในระบบ ณ วันที่นี้จะได้รับเงินปันผลตามสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ การกำหนดวันนี้ช่วยให้บริษัททราบจำนวนผู้ถือหุ้นที่ต้องจ่ายเงินปันผลอย่างชัดเจน

     

    วันประกาศขึ้นเครื่องหมาย (Ex-Dividend Date)

    วันประกาศขึ้นเครื่องหมาย เป็นวันที่กำหนดเพื่อแยกสิทธิรับเงินปันผลจากการซื้อขายหุ้น โดยปกติจะอยู่ก่อน Record Date หนึ่งวันทำการ ใครที่ซื้อหุ้นหลังจากวันนี้จะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล ทำให้นักลงทุนสามารถวางแผนซื้อขายหุ้นได้อย่างถูกต้อง

     

    วันจ่ายเงินปันผล (Payment Date)

    วันจ่ายเงินปันผล เป็นวันที่บริษัทจะดำเนินการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นตามที่ได้ประกาศไว้ เงินปันผลอาจจ่ายเป็นเงินสดโดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร หรือในรูปแบบของหุ้นเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท

     

    การรับเงินปันผล

    หลังจากวันจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลตามจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ ณ Record Date เงินปันผลที่ได้รับสามารถนำไปใช้จ่ายได้ทันที หรือเลือกนำไปลงทุนต่อเพื่อเพิ่มมูลค่าทุนในอนาคต

     

    วิธีเริ่มต้นรับเงินปันผลจากหุ้น

    การรับเงินปันผลจากหุ้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีขั้นตอนและความรู้พื้นฐานในการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับสิทธิ์เงินปันผลอย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์ ดังนี้

     

    เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์)

    ก่อนอื่นต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้นกับโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตในตลาดหลักทรัพย์ เช่น บัญชีออนไลน์ของโบรกเกอร์ หรือธนาคารที่ให้บริการซื้อขายหุ้นได้ ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมเหมาะสมและบริการตอบโจทย์การลงทุนของคุณ

     

    ศึกษาและเลือกหุ้นที่จ่ายเงินปันผล

    เลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และ Dividend Yield ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ เช่น หุ้นในกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงอย่างสาธารณูปโภค หรือธนาคาร วิเคราะห์ผลประกอบการและแนวโน้มบริษัทเพื่อความมั่นใจในการลงทุนระยะยาว

     

    ซื้อหุ้นก่อนวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date)

    ต้องถือหุ้นในช่วงก่อนวัน Record Date ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจะบันทึกรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล หากคุณซื้อหุ้นหลังจากวันนี้ จะไม่ได้รับเงินปันผลในรอบนั้น ระวังวัน XD เพราะถ้าซื้อหุ้นหลังวันนี้ คุณจะไม่ได้รับสิทธิ์ปันผลในรอบนั้น

     

    รอรับเงินปันผลตามกำหนด

    หลังจากวันประกาศจ่ายเงินปันผล (Payment Date) บริษัทจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นผ่านบัญชีโบรกเกอร์ของคุณ บางบริษัทจ่ายเป็นเงินสดเข้าบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ หรือบางแห่งอาจจ่ายผ่านเช็ค เงินปันผลจะถูกโอนเข้าบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติหรือตามวิธีที่บริษัทกำหนด

     

    ติดตามประกาศและข่าวสารของบริษัท

    ควรติดตามข่าวสารการจ่ายเงินปันผลจากบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่พลาดวันสำคัญ เช่น วันประกาศจ่ายเงินปันผล, XD วันที่หุ้นเริ่มซื้อขายโดยไม่มีสิทธิ์รับเงินปันผล การติดตามข่าวสารช่วยให้คุณวางแผนลงทุนและรับปันผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     

    ตัวอย่างการวิเคราะห์หุ้นปันผลด้วย Dividend Yield

    สมมติว่ามีหุ้นบริษัท A จ่ายเงินปันผลปีละ 3 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 50 บาท จะได้ Dividend Yield = 3/50 = 6% นักลงทุนจึงคาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 6% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเพื่อรับรายได้ประจำ

    เปรียบเทียบ 2 หุ้นที่ Dividend Yield ต่างกัน

    ข้อเปรียบเทียบ

    หุ้นบริษัท A

    หุ้นบริษัท B

    ราคาหุ้น

    50

    100

    เงินปันผลต่อหุ้น

    3

    3

    Dividend Yield (%)

    6% (3 / 50 x 100)

    3% (3 / 100 x 100)

    ผลตอบแทน

    สูง

    ต่ำ

    เหมาะกับใคร

    เน้นรับรายได้ประจำ

    เน้นการเติบโตระยะยาว

    ความเสี่ยง

    อาจมีราคาหุ้นผันผวนสูง

    ราคาหุ้นค่อนข้างมั่นคง

    ถึงแม้หุ้น B ราคาสูงกว่า แต่ผลตอบแทนจากเงินปันผลน้อยกว่า นักลงทุนที่เน้นรายได้ประจำอาจชอบหุ้น A มากกว่า ขณะที่นักลงทุนที่เน้นการเติบโตอาจสนใจหุ้น B เพราะมีโอกาสเพิ่มมูลค่าหุ้นในอนาคต

     

    คำแนะนำ การเลือกหุ้น Dividend Yield แบบมืออาชีพ

    • อย่าเลือกหุ้นแค่เพราะ Dividend Yield สูง ควรดูพื้นฐานบริษัทด้วย เช่น ความมั่นคงของกำไร และแนวโน้มการจ่ายปันผล

    • เปรียบเทียบ Dividend Yield กับอัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทอื่นๆ เพื่อประเมินความคุ้มค่า

    • พิจารณาความเสี่ยงที่อาจมากับ Dividend Yield สูงเกินไป เช่น หุ้นที่ราคาตกต่ำผิดปกติ อาจไม่ยั่งยืน

    • ใช้ Dividend Yield ควบคู่กับข้อมูลทางการเงินและข่าวสารบริษัท เพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบและแม่นยำ

     

    เงินปันผล vs หุ้นปันผล ต่างกันอย่างไร?

    เงินปันผล” กับ “หุ้นปันผล” แม้ดูใกล้เคียงกัน แต่จริง ๆ ต่างกัน เงินปันผลคือรายได้ที่ได้รับ ส่วนหุ้นปันผลคือหุ้นที่จ่ายเงินปันผลเป็นประจำ ส่วนนี้จะช่วยให้เข้าใจความแตกต่างง่ายขึ้น

    หัวข้อ

    เงินปันผล

    หุ้นปันผล

    ความหมาย

    รายได้ที่ผู้ถือหุ้นได้รับจากบริษัท

    หุ้นบริษัทที่เน้นจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ

    ผลตอบแทน

    เงินสด หรือบางครั้งเป็นหุ้นเพิ่ม

    เน้นจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ

    จุดประสงค์หลัก

    รายได้จริงจากการถือหุ้น

    การลงทุนในหุ้นที่ให้รายได้ประจำ

    เหมาะสำหรับ

    นักลงทุนที่ต้องการรายได้จากเงินปันผล

    นักลงทุนที่ต้องลงทุนในหุ้นจ่ายปันผล

     

    ยกตัวอย่าง

    สมมติคุณถือหุ้นบริษัท A ซึ่งเป็นหุ้นปันผล บริษัทจ่ายเงินปันผลปีละ 4 บาทต่อหุ้น หากคุณถือ 100 หุ้น คุณจะได้รับเงินปันผล 400 บาทในปีนั้น นี่คือ “เงินปันผล” ที่คุณได้รับ ส่วนหุ้นบริษัท A เองคือ “หุ้นปันผล” ที่เน้นจ่ายผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

     

    ข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นปันผล:

    หุ้นปันผลเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำและความมั่นคง แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

    ข้อดี

    ข้อเสีย

    ได้รับรายได้ประจำจากเงินปันผล ช่วยเพิ่มกระแสเงินสด

    Dividend Yield สูงบางครั้งอาจบ่งชี้ถึงความเสี่ยง หรือปัญหาของบริษัท

    ลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน เพราะหุ้นปันผลมักเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง

    โอกาสเติบโตของราคาหุ้นอาจต่ำกว่าหุ้นที่เน้นการเติบโตสูง

    เหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการสร้างรายได้สม่ำเสมอและเพิ่มมูลค่าในระยะยาว

    บางบริษัทอาจลดหรืองดจ่ายเงินปันผลในช่วงเวลาที่ผลประกอบการไม่ดี

     

    สรุป

    Dividend yield คือ ตัวชี้วัดสำคัญที่บอกอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้น การเข้าใจ Dividend yield คือ กุญแจที่จะช่วยให้นักลงทุนเลือกหุ้นปันผลที่เหมาะสมและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

    การลงทุนที่ดีไม่ใช่แค่เลือกราคาปันผลสูง แต่ต้องพิจารณาคุณภาพของบริษัทควบคู่กันไป ดังนั้นอย่าลืมใช้ Dividend yield เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์เป้าหมายของคุณ

    พร้อมสำหรับก้าวต่อไปในการซื้อขายหรือยัง?

    เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย

    รับสิทธิ์เข้าถึงฟรี

    สารบัญ

      คำถามที่พบบ่อย

      ไม่เหมือนกันค่ะ เงินปันผล คือ จำนวนเงินที่ผู้ถือหุ้นได้รับ ส่วน Dividend Yield คือ อัตราผลตอบแทนของเงินปันผลเทียบกับราคาหุ้น Yield ช่วยให้เปรียบเทียบความคุ้มค่าในการลงทุนระหว่างหุ้นแต่ละตัวได้ง่ายขึ้น

      ไม่มีค่ะ เพราะ Dividend Yield ต้องอาศัย “เงินปันผล” ในการคำนวณ หากบริษัทไม่จ่ายปันผล ค่า Dividend Yield จะเป็น 0

      ไม่ค่ะ หุ้นเติบโตมักไม่จ่ายปันผลหรือจ่ายน้อย เพราะบริษัทเลือกใช้กำไรไปขยายธุรกิจ ทำให้ Dividend Yield ต่ำหรือเป็น 0 แต่มีโอกาสกำไรจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแทน

      Dividend Yield เปลี่ยนตาม ราคาหุ้นในตลาด และ จำนวนเงินปันผลที่บริษัทประกาศจ่าย ซึ่งราคาหุ้นลดลง แต่ปันผลเท่าเดิม Yield จะสูงขึ้นทันที

      Dividend Yield ขึ้นอยู่กับผลกำไรของบริษัทและราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลงได้ ไม่การันตีจำนวนเงินแน่นอน ต่างจากดอกเบี้ยที่มีอัตราคงที่ตามสัญญา

      Dividend Yield ไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์เดียว ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ROE, กำไรสุทธิ, กระแสเงินสด และความสามารถในการดำเนินธุรกิจระยะยาว

      Itsariya Doungnet

      Itsariya Doungnet

      SEO Content Writer

      อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ

      เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง

      scroll top