ตลาด
แพลตฟอร์ม
บัญชี
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
การแข่งขัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือการเทรด
แหล่งข้อมูล
ฟอเร็กซ์
เขียนโดย Itsariya Doungnet
อัปเดตแล้ว 26 November 2025
สารบัญ
EMA Indicator คือ เครื่องมือที่นักลงทุนสายเทคนิค มักใช้ประเมินแนวโน้มราคา หรือ Price Action ในการเทรด แต่ซึ่งเครื่องมือสายเทคนิคอย่าง Exponential Moving Average (EMA) อาจจะยังฟังดูซับซ้อนสำหรับมือใหม่อยู่ ที่จะเริ่มต้นวิเคราะห์พฤติกรรมราคาด้วยตัวเอง
บทความนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญ ที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ EMA Indicator ทั้งความหมาย วิธีการใช้งาน รวมทั้งตอบคำถามที่นักเทรดมักพบเจออยู่บ่อยครั้ง อ่านรายละเอียดกันต่อเลย
สาระสำคัญ
EMA คือ เส้นค่าเฉลี่ย Exponential Moving Average วัดแนวโน้มราคาจากราคาย้อนหลังแบบถ่วงน้ำหนัก
EMA มีการคำนวณด้วยช่วงเวลาย้อนหลังที่แตกต่างกันตามการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์
EMA สามารถบ่งบอกสัญญาณจุดกลับตัวที่แม่นยำกว่า SMA
ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
EMA Indicator ย่อมาจาก Exponential Moving Average หรือ EMA คือ เส้น EMA ที่บ่งบอกราคาค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่ง เป็น Indicator ที่ใช้ในคาดการณ์ Price Action และ หา Trend เพื่อเทรด สามารถใช้ได้ทั้งในการวิเคราะห์กราฟหุ้น, Forex และ คริปโต ซึ่งปกติแล้วมักจะใช้วัด การปรับตัวเร็วกว่าต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
ยกตัวอย่าง
EMA 15 หมายถึง ค่าเฉลี่ยราคาหุ้น 15 วันย้อนหลัง
คุณสามารถคำนวณ EMA เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์ที่คุณต้องการดังนี้ ซึ่งเริ่มแรกคุณจะต้องคำนวณ Simple Moving Average (SMA) กันก่อน
สูตร SMA = ผลรวมราคาปิดทั้งหมดตามช่วงเวลา / จำนวนช่วงเวลา
จากนั้นเหมือนคุณได้ผลลัพธ์มาแล้ว เรามาคำนวณ EMA กันต่อ
สูตร EMA ช่วงเวลาปัจจุบัน = (ราคาปิด - EMA ช่วงเวลาก่อนหน้า) x ตัวคูณ + EMA ช่วงเวลาก่อนหน้า
หากคุณคำนวณ EMA ก็สามารถใช้ SMA เป็นช่วงเวลาของ EMA ได้
1. เริ่มคำนวณหา SMA กันก่อน
สมมุติว่าคุณต้องการคำนวณ EMA 5 วัน ล่าสุด ราคาปิด คือ 20, 21, 22, 23, 24
SMA 5 วัน = (20 + 21 + 22 + 23 + 24)/5 = 22
2. จากนั้นคำนวณหาตัวคูณ EMA หรือ ตัว Multiplier
สูตร EMA Multiplier = 2/(จำนวนวัน + 1)
ตัวอย่างคำนวณ 5 วัน
EMA Multiplier = 2/(5+1) = 0.3333
3. คำนวณ EMA ในวันถัดไป
EMA วันแรก = 22
สมมุติ ราคาปิดวันถัดไป (ราคาจริงที่มีการซื้อขายในตลาดวันนั้น) = 15
สูตร EMA = (15-12) x 0.3333 + 12 = 13
คำตอบ EMA วันถัดไปจะเท่ากับ 13
EMA และ SMA มีความเหมือนและความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้คุณสับสนใจการใช้งาน เราจะมาดูความแตกต่าง ที่คุณเห็นได้ชัดจากตาราง ความแตกต่าง EMA SMA ด้านล่างนี้กันต่อเลย
EMA (Exponential Moving Average)
SMA (Simple Moving Average)
การคำนวณ EMA จะเน้นน้ำหนักราคาล่าสุดมากกว่า
การคำนวณ SMA จะเน้นน้ำหนักเท่ากับช่วงราคา
การตอบสนองต่อราคาเร็ว
การตอบสนองต่อราคาได้ช้ากว่า
เส้น EMA มีความผันผวนมากกว่า
เส้น EMA มีความคงที่มากกว่า
เหมาะกับการเทรดระยะสั้น ที่มีความผันผวนสูง
เหมาะกับการเทรดระยะยาว ที่ไม่ค่อยมีความผันผวน
EMA คือ อินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
EMA ช่วยวัดแนวโน้มตลาดได้รวดเร็วกว่า SMA
EMA จับสัญญาณการกลับตัวราคาได้ดีกว่า SMA
EMA ใช้งานง่าย สามารถปรับช่วงเวลาให้เหมาะสมกับสไต์การเทรดได้
EMA ตอบสนองราคาเร็วเกินไป อาจเกิดสัญญาณ False Signal
ความเสี่ยง EMA คือ ไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางได้แม่นยำ 100%
EMA ไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในตลาด Sideways
EMA อาจตอบสนองล่าช้า หากตลาดมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
นักเทรดสามารถตั้งค่า ระยะเวลา EMA ได้ตามสไตล์การเทรดของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการเทรด Day Trade, Swing Trade, Scalping และอื่นๆ เรามาดูกันต่อว่า มีรูปแบบการตั้งค่าแนะนำแบบไหนกันบ้าง
EMA 9, 12, 20, หรือ 21
เหมาะกับการเทรด 15 นาที
EMA 20 หรือ 50
เหมาะกับการเทรดประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ 4 ชั่วโมง
EMA 50, 100 หรือ 200
เหมาะกับการเทรดระยาวแบบ Daily หรือ Monthly
นักเทรดแต่ละคนมี กลยุทธ์ EMA ไม่เหมือนกัน แและหนึ่งในกลยุทธ์ที่เราจะมาแนะนำนี้ ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเทรดคนเทรดอย่างมาก ซึ่งกลยุทธ์นี้มีชื่อเรียกว่า กลยุทธ์ริบบิ้น (EMA ribbons)
กลยุทธ์ริบบิ้น เหมาะกับการวิเคราะห์ แนวโน้มระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นักเทรดมักใช้วัดจุดกลับตัว, ความต่อเนื่อง และ สภาวะซื้อ หรือ ขายมากเกินไป เพื่อกำหนดแนวรับ แนวต้าน
การตั้งค่ากลยุทธ์ริบบิ้น EMA ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ EMA 8 เส้นด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ EMA 20 ไปจนถึง EMA 50
วิธีการอ่าน กลยทธ์ริบบิ้น EMA
เมื่อเส้นมาบรรจบกันที่จุดเดียวกัน = บ่งบอกการกลับตัว
เมื่อเส้นเคลื่อนที่ออกจากกัน = บ่งบอกถึงความต่อเนื่อง
ซื้อตอนไหน?
ขายตอนไหน?
นอกจากนี้ เราก็ยังใช้กลยุทธ์ริบบิ้น EMA ตั้งค่าเป็น แนวรับ และ แนวต้าน ได้ด้วยเช่นกัน
เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการใช้งานอินดิเคเตอร์ EMA คุณสามารถใช้อินดิเคเตอร์อื่นๆ ในการยืนยันสัญญาเทดได้ เรามาดูกันดีกว่ามาจะมีวิธีการใช้งาน EMA กับ 3 อินดิเคเตอร์ยอดนิยมอย่าง MACD, RSI และ Moving Averages ยังไง
EMA 12 ระยะสั้น ตัด EMA 26 ระยะยาว ขาขั้น ยืนยันสัญญาณ ซื้อ
EMA 12 ระยะสั้น ตัด EMA 26 ระยะยาว ขาลง ยืนยันสัญญาณ ขาย
ดูเส้น MACD ว่าตัดกันไหม เพื่อเป็นการยืนยันสัญญาณเข้าและออกเทรด
RSI มากกว่า 70 แรงซื้อยเอะเกิน + ต่ำกว่า EMA = ยืนยันสัญญาณ ขาย
RSI น้อยกว่า 30 แรงขายเยอะเกิน + สูงกว่า EMA = ยืนยันสัญญาณ ซื้อ
ส่วนมากแล้ว เราจะใช้ EMA ร่วมกับการใช้ Moving Averages เช่น
EMA 9 ตัด EMA 21 ขาขึ้น = แนวโน้ม ขาขึ้น
EMA 9 ตัด EMA 21 ขาขึ้น = แนวโน้ม ขาลง
EMA คือ อินดิคิเตอร์ ที่ช่วยคาดการณ์แนวโน้มของราคาได้ ซึ่งอาจจะไม่ได้ตรง 100% เสมอไป เพราะขึ้นอยู่การเคลื่อนตัวของตลาดและ ขึ้นอยู่กับการปรับใช้ตามกลยุทธ์ของนักเทรดแต่ละคน
แน่นอนว่า หากคุณต้องการใช้อินดิเคเตอร์ EMA ให้ได้ผลขึ้นจริง อาจจะต้องทำ Back testing เพื่อหาความเหมาะสมและความเข้าใจอย่างละเอียด
นอกจากนี้แล้ว ก็ควรเลือกใช้ควบคู่กับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อทำการยืนยันสัญญาณเข้าเทรด
พร้อมสำหรับก้าวต่อไปในการซื้อขายหรือยัง?
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
EMA200 คือ เส้นวัดแนวโน้มระยะยาวของตลาดสินทรัพย์ ที่เป็นการคำนวณราคาปิดย้อนหลัง 200 วัน หากราคาอยู่บนเส้น EMA 200 บ่งบอกถึงขาขึ้น หากราคาต่ำกว่า EMA 200 บ่งบอกถึงราคาขาลง
สายเทรดระยะสั้น เส้น EMA มักจะอยู่ที่ EMA 9, EMA 12, EMA 14 สำหรับสายเทรดระยะกลาง จะอยู่ที่ EMA 20, EMA 21, EMA 50 ส่วนสายเทรดระยะยาว คือ EMA 100 และ EMA 200
EMA เส้นค่าเฉลี่ยที่ใช้คาดการณ์แนวโน้มราคา ด้วยการทิ้งน้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่าราคาที่เก่ากว่า เพื่อมองหาจังหวะเข้าเทรด
EMA 100 คือ เส้นที่มีการคำนวณจากราคาปิดย้อนหลังเป็นเวลา 100 หรือ แท่งเทียน 100 เท่ง หากราคาอยู่เหนือ EMA 100 บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น แต่หากราคาต่ำกว่า EMA 100 บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง
EMA 14 คือ การคำนวณราคาปิดย้อนหลัง 14 วัน เป็นการจับจังหวะราคาระยะสั้น นิยมใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ เช่น RSI และ MACD
EMA 20 คือ เส้นที่มีการคำนวณราคาปิดย้อนหลัง 20 วัน สามารถใช้คาดคะเนแนวโน้มราคาระยะสั้น และ ระยะกลาง หากราคาอยู่เหนือ EMA 20 บ่งบอกถึง เทรนด์ขาขึ้น หากราคาอยู่ใต้ EMA 20 บ่งบอกถึงราคาขาลง
Itsariya Doungnet
SEO Content Writer
อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง