Facebook Pixel
Logo

หุ้น

Dividend คืออะไร?ความหมาย ประเภท วิธีรับเงินปันผล

เขียนโดย Itsariya Doungnet

อัปเดตแล้ว 17 ตุลาคม 2025

dividend-คือ

สารบัญ

    เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาดหุ้น หลายคนมักนึกถึงการซื้อถูก ขายแพง เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกหนึ่งช่องทางที่นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทน โดยไม่ต้องขายหุ้นเลย และ ช่องทางนี้ก็สำคัญไม่น้อยสำหรับการวางแผนการเงินระยะยาว ทำความรู้จักกับความหมาย Dividend คือ อะไร ประเภทต่างๆ และ วิธีที่นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนดังกล่าวอย่างถูกต้อง ในบทความนี้ต่อได้เลย

    สาระสำคัญ

    • Dividend คือ เงินปันผลที่บริษัทจ่ายให้ผู้ถือหุ้นจากกำไรสุทธิ เป็นรายได้สม่ำเสมอสำหรับนักลงทุน

    • Dividend มีหลายประเภทเงินปันผล เช่น เงินสด หุ้นปันผล เงินปันผลพิเศษ และทรัพย์สิน ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน

    • การได้รับเงินปันผลต้องถือหุ้นก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD และเงินปันผลมักถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมาย

    • หุ้นปันผลเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการรายได้ประจำ และควรพิจารณาความมั่นคงของบริษัทก่อนลงทุน

    ทอลองใช้บัญชีเดโม่โดยไม่มีความเสี่ยง

    ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

    เปิดบัญชีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    Dividend คืออะไร?

    Dividend คือ รายได้ที่นักลงทุนได้รับจากการถือหุ้นในบริษัท หรือ เงินปันผล ซึ่งเป็นการแบ่งส่วนกำไรของบริษัทกลับคืน ให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนที่ถืออยู่ จุดประสงค์ของการจ่ายเงินปันผล คือ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ร่วมลงทุนในกิจการ และ แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัท

    โดยทั่วไป เงินปันผล (Dividend) จะมาจากกำไรสุทธิของบริษัท หลังจากหักค่าใช้จ่าย ภาษี และ เงินสำรองต่าง ๆ แล้ว หากบริษัทมีกำไร และ มีนโยบายการจ่ายปันผล ผู้ถือหุ้นก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินสด หรือ หุ้นเพิ่มทุนตามประเภทของเงินปันผลที่บริษัทกำหนดไว้

     

    ประเภทของ Dividend คือ

    บริษัทสามารถเลือกจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับนโยบายทางการเงิน สภาพคล่อง และสถานการณ์ทางธุรกิจในขณะนั้น โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้:

     

    เงินปันผลประเภทเงินสด (Cash Dividend)

    เงินปันผลประเภทเงินสด เป็นรูปแบบการจ่ายเงินปันผลที่พบได้บ่อยที่สุด ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินจริงโอนเข้าบัญชีธนาคารตามจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ เช่น หากบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1 บาท และผู้ถือหุ้นมี 1,000 หุ้น ก็จะได้รับเงิน 1,000 บาท ซึ่งนักลงทุนสามารถนำเงินสดที่ได้รับไปใช้จ่ายหรือลงทุนต่อได้ทันที ช่วยสร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) ให้กับพอร์ตการลงทุน

     

    เงินปันผลประเภทหุ้น (Stock Dividend)

    เงินปันผลประเภทหุ้น เป็นการจ่ายปันผลในรูปแบบของหุ้นเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทจะออกหุ้นใหม่และจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนที่ถืออยู่ เช่น จ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 10:1 หมายความว่าถือหุ้น 10 หุ้น จะได้รับหุ้นเพิ่มอีก 1 หุ้น ผู้ถือหุ้นได้รับหุ้นเพิ่ม ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม สามารถเพิ่มสัดส่วนการถือครองในบริษัทได้

     

    เงินปันผลพิเศษ (Special Dividend)

    เงินปันผลพิเศษ เป็นการจ่ายปันผลที่เกิดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ไม่ได้เกิดเป็นประจำทุกปี เช่น บริษัทขายสินทรัพย์บางอย่างแล้วได้กำไรจำนวนมาก หรือมีเงินสดสะสมเกินความจำเป็น การจ่ายเงินปันผลพิเศษมักสะท้อนถึงสถานการณ์ทางการเงินที่ดีในช่วงเวลานั้น และเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ควรคาดหวังว่าจะได้รับปันผลพิเศษทุกปี เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะหน้า

     

    เงินปันผลประเภททรัพย์สิน (Property Dividend)

    เงินปันผลประเภททรัพย์สิน เป็นการจ่ายเงินปันผลในรูปแบบของทรัพย์สิน แทนเงินสด หรือ หุ้น เช่น หุ้นของบริษัทในเครือ อสังหาริมทรัพย์ หรือหลักทรัพย์อื่นๆ ที่บริษัทถือครองอยู่ การจ่ายปันผลประเภทนี้มักไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และ มักใช้ในกรณีที่บริษัทมีสินทรัพย์ ที่ไม่จำเป็นต้องถือไว้ต่อ หรือ มีวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การปรับโครงสร้างธุรกิจ หรือ การคืนผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้น ไม่กระทบสภาพคล่องเงินสดของบริษัท

     

    หลักการทำงานของระบบ Dividend คือ

    การจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นกระบวนการที่มีขั้นตอนชัดเจน และ เป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้:

     

    บริษัททำกำไร

    การจ่ายเงินปันผลจะเกิดขึ้น เมื่อบริษัทมีกำไรสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาษีแล้ว ซึ่งกำไรนี้ถือเป็นฐานสำคัญในการจัดสรรผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทต้องมั่นใจว่ากำไรที่เกิดขึ้นเพียงพอและเหมาะสมที่จะนำมาแบ่งปันให้กับนักลงทุน ไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต

     

    คณะกรรมการตัดสินใจจ่ายปันผล

    หลังจากตรวจสอบผลประกอบการ และสภาพคล่องแล้ว คณะกรรมการบริษัทจะประชุมเพื่อพิจารณาว่าควรจ่ายเงินปันผลหรือไม่ จะพิจารณาถึงความสมดุลระหว่างการจ่ายเงินปันผล และ การนำเงินไปลงทุนเพื่อขยายกิจการ พร้อมกับกำหนดอัตราการจ่ายและรูปแบบของเงินปันผล เช่น การจ่ายเป็นเงินสดหรือหุ้นเพิ่มทุน

     

    ขั้นตอนการอนุมัติจ่ายปันผล

    สำหรับเงินปันผลประจำปี การจ่ายเงินปันผลมักต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อยืนยันความถูกต้อ และ ความโปร่งใสในกระบวนการ โดยที่ประชุมจะพิจารณามติที่เสนอจากคณะกรรมการบริษัท และ ลงมติตามกฎหมาย และ ข้อบังคับของบริษัท

     

    การประกาศนโยบายเงินปันผล

    เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว บริษัทจะประกาศนโยบายการจ่ายเงินปันผล แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมแจ้งวันสำคัญที่เกี่ยวข้อง เช่น วันขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งเป็นวันที่ผู้ซื้อหุ้นจะไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล วันปิดสมุดทะเบียนที่บันทึกรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล และ วันจ่ายเงินปันผลที่บริษัทจะโอนเงิน หรือ แจกหุ้นเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสิทธิ์

     

    บริษัทตัดสินใจจ่ายปันผลได้อย่างไร?

    บริษัทตัดสินใจจ่ายเงินปันผล พิจารณาจากกำไร สุขภาพการเงิน และ แผนการลงทุน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนผู้ถือหุ้น และ ความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว

     

    ดูจากกำไรสุทธิ

    บริษัทจะพิจารณากำไรสุทธิ เป็นปัจจัยหลัก เพราะกำไรสุทธิเหมือนฐานเงินที่บริษัทสามารถนำมาแบ่งปันให้กับผู้ถือหุ้นได้ หากบริษัทมีกำไรสุทธิมาก ก็มีโอกาสจ่ายเงินปันผลได้มากขึ้น ในขณะที่หากขาดทุนหรือกำไรน้อย การจ่ายเงินปันผลอาจถูกลดหรือเลื่อนออกไป

     

    อัตราการจ่ายเงินปันผล (Payout Ratio)

    บริษัทจะวิเคราะห์อัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ หรือ ที่เรียกว่า Payout Ratio เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการจ่ายผลตอบแทน และ การเก็บเงินไว้ลงทุนในธุรกิจ หากอัตรานี้สูงเกินไป อาจกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนและแผนการเติบโตของบริษัท

     

    สุขภาพทางการเงินของบริษัท

    สุขภาพทางการเงินของบริษัท เช่น สภาพคล่อง ความมั่นคงของเงินทุน และภาระหนี้สิน จะถูกนำมาพิจารณา เพื่อประเมินว่าบริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว สุขภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง ช่วยให้บริษัทมั่นใจได้ว่าสามารถจ่ายเงินปันผล ไม่กระทบต่อการดำเนินงาน

     

    ประวัติการจ่ายเงินปันผล Dividend คือ

    บริษัทมักพิจารณาประวัติการจ่ายเงินปันผลในอดีต เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ และ ความคาดหวังของนักลงทุน การจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ช่วยสร้างความมั่นใจ และ ความเชื่อมั่นในหุ้นของบริษัท การจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในอดีต ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และ ความมั่นใจให้กับนักลงทุน

     

    วันที่สำคัญในระบบ Dividend คือ

    การจ่ายเงินปันผล จะมีวันที่สำคัญที่นักลงทุนควรรู้ เพื่อให้เข้าใจว่าจะได้รับเงินปันผลเมื่อไหร่ และ ต้องถือหุ้นในช่วงเวลาใดบ้าง หลัก ๆ มี 4 วันสำคัญ ดังนี้

    • วันที่ประกาศจ่ายปันผล คือ วันที่บริษัทประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทจะแจ้งจำนวนเงินปันผลที่จะจ่าย และกำหนดวันสำคัญอื่น ๆ

    • วันตัดสิทธิ์เงินปันผล หรือวันตัดสิทธิ์ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล นักลงทุนที่ซื้อหุ้นก่อนวัน XD จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล หากซื้อหุ้นในวัน XD หรือหลังจากนั้น จะไม่ได้รับเงินปันผลรอบนี้ ราคาหุ้นในวัน XD มักปรับลดลงประมาณจำนวนเงินปันผลที่จ่าย เพราะสิทธิรับเงินปันผลถูกตัดออกไปแล้ว

    • วัน Record Date คือ วันที่บริษัทจะบันทึกชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล หลังจากวัน XD แล้ว รายชื่อผู้ถือหุ้นที่จดทะเบียน ณ วัน Record จะเป็นผู้มีสิทธิรับเงินปันผลรอบนั้น นักลงทุนต้องถือหุ้นจนถึงวัน XD เพื่อให้ชื่อถูกบันทึกในวัน Record

    • วันจ่ายปันผล คือ วันที่บริษัทจะโอนเงินปันผลเข้าสู่บัญชีผู้ถือหุ้น หรือ จ่ายหุ้นปันผลให้กับนักลงทุน ปกติจะอยู่หลังวัน Record เป็นระยะเวลาหนึ่ง นักลงทุนจะได้รับเงินหรือหุ้นจริง ๆ ในวันนี้

     

    Dividend Yield คือ อะไร?

    Dividend Yield คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ที่นักลงทุนได้รับ เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อวัดความคุ้มค่าของเงินปันผลเมื่อถือหุ้นนั้น

    Dividend Yield มีความสำคัญ เพราะช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมของรายได้ ที่ได้รับจากเงินปันผลสัมพันธ์กับราคาหุ้น ทำให้นักลงทุนใช้ เป็นเกณฑ์เปรียบเทียบ และ ตัดสินใจลงทุนในหุ้น ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม

     

    วิธีคำนวณ Dividends

    การคำนวณ Dividends (เงินปันผล) มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการคำนวณในมุมของ บริษัท หรือ นักลงทุน และอยู่ในรูปแบบใด (เช่น ปันผลเป็นเงินสด หรือเป็นหุ้น)

    สูตร:

    เงินปันผลที่ได้รับ = จำนวนหุ้นที่ถือ × อัตราปันผลต่อหุ้น

     

    ตัวอย่างการคำนวณ Dividend คือ

    การคำนวณเงินปันผลสามารถทำได้ง่าย ๆ ดูจากจำนวนหุ้นที่ถือและอัตราการจ่ายปันผลต่อหุ้น ตัวอย่างเช่น:

    หากนักลงทุนถือหุ้น A จำนวน 1,000 หุ้น และบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 1.50 บาท

    นักลงทุนจะได้รับเงินปันผลรวม = 1,000 × 1.50 = 1,500 บาท

    จำนวนเงินปันผลที่ได้รับนี้จะถูกโอนเข้าบัญชีหลักทรัพย์ (หักภาษี ณ ที่จ่าย 10%) เว้นแต่นักลงทุนจะเลือกขอเครดิตภาษีไว้ใช้ลดหย่อนภาษีในตอนสิ้นปี

     

    วิธีเริ่มต้นรับ Dividend คือ

    การเริ่มต้นรับเงินปันผล ต้องรู้ขั้นตอนการลงทุนอย่างถูกต้อง รวมถึงการเลือกหุ้นปันผลที่เหมาะสมและบริษัทที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลมั่นคง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ และ มั่นคงในระยะยาว

     

    ขั้นตอนเริ่มลงทุนเพื่อรับปันผล

    การเริ่มต้นรับเงินปันผล ต้องเริ่มจากการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับโบรกเกอร์ จากนั้นเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ และถือหุ้นไว้จนถึงวันขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อให้มีสิทธิ์รับเงินปันผล

     

    วิธีเลือกหุ้นปันผลที่ดี

    การเลือกหุ้นปันผลที่ดี ควรพิจารณาจากประวัติการจ่ายเงินปันผลที่มั่นคง อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ที่เหมาะสม และ สุขภาพการเงินของบริษัท รวมถึงแนวโน้มธุรกิจในอนาคต เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนมีความปลอดภัยและคุ้มค่า

     

    ตัวอย่างหุ้นที่มีประวัติจ่ายปันผลดี

    หุ้นของบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีประวัติจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เช่น บริษัทพลังงาน โทรคมนาคม และสถาบันการเงิน มักเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับนักลงทุน ที่ต้องการรับเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง

     

    ข้อดี-ข้อเสียของการลงทุน Dividend คือ

    ข้อดี

    ข้อเสีย

    รายได้สม่ำเสมอ

    โอกาสเติบโตน้อยกว่าหุ้นที่ไม่จ่ายปันผล

    ความผันผวนน้อยกว่าหุ้นเติบโต

    เสี่ยงกับการลดหรือหยุดจ่ายปันผล

    นำเงินปันผลไปลงทุนต่อ (Reinvest)

    อัตราผลตอบแทนโดยรวมอาจต่ำในช่วงตลาดขาขึ้น

     

    5 ความเสี่ยงที่นักลงทุนหุ้นปันผลควรรู้

    หุ้นปันผล ช่วยสร้างรายได้สม่ำเสมอ แต่ยังมีความเสี่ยงหลายด้านที่นักลงทุนควรเข้าใจ เพื่อบริหารการลงทุนได้อย่างรอบคอบและปลอดภัย

     

    บริษัทลดหรือระงับจ่ายปันผล

    แม้ว่าหุ้นปันผล จะเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง แต่บริษัทอาจต้องลด หรือ หยุดจ่ายเงินปันผลในช่วงที่มีปัญหาทางการเงิน หรือ เมื่อต้องใช้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียรายได้ส่วนนี้ทันที และ อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน

     

    ราคาหุ้นอาจลดลงหลัง XD

    วันขึ้นเครื่องหมาย XD คือวันที่ซื้อหุ้นหลังจากนี้จะไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล ราคาหุ้นมักจะปรับตัวลดลงเท่ากับมูลค่าเงินปันผลที่จ่ายออกมา ทำให้นักลงทุนที่ซื้อหุ้นในช่วงนี้ต้องเผชิญกับราคาหุ้นที่ตกลงทันที และอาจต้องรอเวลานานกว่าราคาจะฟื้นตัว

     

    ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

    เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับสูงขึ้น นักลงทุนอาจเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ เช่น พันธบัตร หรือเงินฝากธนาคาร ทำให้ความต้องการหุ้นปันผลลดลง ส่งผลให้ราคาหุ้นปันผลลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้กำไรสุทธิลดลง ส่งผลต่อความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอนาคตด้วย

     

    ความผันผวนของตลาด

    แม้หุ้นปันผลจะมีความมั่นคงมากกว่าหุ้นเติบโต แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดหุ้นโดยรวม เช่น ปัจจัยเศรษฐกิจ ภาวะการเมือง หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นลดลงอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อมูลค่าการลงทุน

     

    เงินเฟ้อที่ลดมูลค่าผลตอบแทน

    เงินปันผลที่ได้รับอาจดูเหมือนเป็นรายได้ที่มั่นคง แต่ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น จะทำให้อำนาจการซื้อของเงินปันผลลดลง ผลตอบแทนที่แท้จริงหลังหักเงินเฟ้อจึงต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดหวัง ส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าความเป็นจริง

     

    เงินปันผล กับ หุ้นปันผล แตกต่างกันอย่างไร?

    เงินปันผลและหุ้นปันผลเป็นรูปแบบผลตอบแทนที่ต่างกัน นักลงทุนควรเข้าใจความแตกต่างเพื่อเลือกให้เหมาะกับเป้าหมายการลงทุน

    หัวข้อ

    เงินปันผล

    หุ้นปันผล

    รูปแบบการจ่าย

    เงินสด

    หุ้นเพิ่ม

    วัตถุประสงค์

    เพื่อเพิ่มเงินสดทันที

    จำนวนหุ้นที่ถือเพิ่มขึ้น

    เหมาะกับใคร

    นักลงทุนที่ต้องการรายได้ระยะสั้น

    นักลงทุนระยะยาว

    ภาษี

    หักภาษี ณ. ที่จ่าย 10%

    ไม่หักภาษี

    ประโยชน์

    นำเงินไปลงทุนต่อได้ทันที

    ใช้ประโยชน์เมื่อขายหุ้นได้

    ผลกระทบต่อหุ้น

    จำนวนหุ้นเท่าเดิม

    จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น

     

    ทางเลือกในการลงทุนเพื่อรับเงิน Dividend คือ

    การลงทุนเพื่อรับเงินปันผลเป็นวิธีสร้างรายได้ที่ได้รับความนิยมและมีหลายทางเลือกให้เลือกตามความเสี่ยงและเป้าหมายของนักลงทุน เรามาดูกันต่อเลย

    • กองทุนรวมปันผล เป็นทางเลือกที่ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ พร้อมจ่ายเงินปันผลตามผลกำไรที่ได้รับ

    • หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นการลงทุนโดยตรงในหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ

    • REITs คือ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และรับผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลจากค่าเช่า

    • ETF ปันผล คือ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นปันผลหลายตัว รวมไว้ในกองทุนเดียวและจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุน

     

    สรุป

    Dividend คือ ผลตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้ผู้ถือหุ้นจากกำไรของกิจการ มีทั้งแบบเงินสด หุ้น หรือทรัพย์สินอื่น ๆ นักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลต้องถือหุ้นผ่านวัน XD และควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายจ่ายปันผลสม่ำเสมอ การวางแผนและเลือกหุ้นที่เหมาะสม จะช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่องและเพิ่มความมั่นคงในการลงทุนระยะยาว

    พร้อมสำหรับก้าวต่อไปในการซื้อขายหรือยัง?

    เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย

    รับสิทธิ์เข้าถึงฟรี

    สารบัญ

      คำถามที่พบบ่อย

      คุณต้องถือหุ้นก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD เพราะถ้าซื้อหุ้นหลังวันนั้นจะไม่ได้รับเงินปันผลในรอบนั้น

      กองทุนรวมบางประเภท เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REIT) หรือกองทุนรวมที่เน้นจ่ายปันผล จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเหมือนหุ้น

      Dividend คือรายได้ที่ได้จากเงินปันผล ส่วน Capital Gain คือ กำไรจากการขายหุ้นที่ราคาสูงกว่าต้นทุน

      เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำแบบสม่ำเสมอ เช่น นักลงทุนระยะยาว หรือผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดจากการลงทุน

      ได้ นักลงทุนสามารถนำเงินปันผลที่ได้รับไปลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อเพิ่มผลตอบแทนในอนาคต

      เงินปันผลพิเศษคือเงินปันผลที่จ่ายเป็นครั้งคราว เมื่อบริษัทมีกำไรมากกว่าปกติหรือต้องการแจกจ่ายกำไรพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น

      Itsariya Doungnet

      Itsariya Doungnet

      SEO Content Writer

      อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ

      เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง

      scroll top