ตลาด
แพลตฟอร์ม
บัญชี
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
การแข่งขัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือการเทรด
แหล่งข้อมูล
Trade war คือสถานการณ์ที่สองประเทศขึ้นไปตอบโต้กันด้วยการเก็บภาษีนำเข้า (tariffs) หรือกำหนดมาตรการกีดกันทางการค้าอื่น ๆ ต่อสินค้าหรือบริการของอีกฝ่าย อันเป็นผลมาจากความไม่สมดุลทางการค้า หรือข้อพิพาททางเศรษฐกิจ สงครามการค้ามักเกิดเป็นลักษณะ “ตอบโต้ไปมา” ด้วยการขึ้นภาษี กำหนดโควตา หรือเพิ่มข้อจำกัดทางการค้า ซึ่งส่งผลเสียต่อซัพพลายเชนทั่วโลก และทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภค รวมถึงสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและลดการค้าระหว่างประเทศ
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนในปี 2018 ที่ทั้งสองประเทศขึ้นภาษีสินค้าของอีกฝ่ายมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ซัพพลายเชนทั่วโลกถูกรบกวนและเกิดความปั่นป่วนทางการค้า
• เกิดจากการที่ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการขึ้นภาษีหรือกีดกันทางการค้าเพื่อตอบโต้ข้อพิพาททางเศรษฐกิจ
• ส่งผลเสียต่อการค้าโลก ซัพพลายเชน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• นำไปสู่ราคาสินค้าที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
สงครามการค้ามักเริ่มจากความไม่สมดุลทางการค้า ความรู้สึกว่าฝ่ายหนึ่งทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
สงครามการค้าทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น ซัพพลายเชนถูกรบกวน ปริมาณการค้าลดลง และธุรกิจรวมถึงผู้บริโภคเผชิญความไม่แน่นอน
สงครามการค้าที่ลากยาวสามารถทำลายความสัมพันธ์ทางการทูต ชะลอการเติบโตเศรษฐกิจ และบังคับให้ประเทศต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนคู่ค้าหรือเส้นทางทางการค้าใหม่
ลงทะเบียนรับจดหมายข่าวของเราเพื่อรับข้อมูลการอัปเดตข่าวสารล่าสุด!