ตลาด
แพลตฟอร์ม
บัญชี
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เพิ่มพูนความรู้ของคุณด้วยคอร์สการเทรดออนไลน์ฟรีจาก
ยินดีต้อนรับสู่บทเรียนสุดท้ายของคอร์สแนะนำการเทรดในตลาดการเงินตลอดที่ผ่านมา คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของการเทรด การใช้งานแพลตฟอร์มและโบรกเกอร์ ตลอดจนบทบาทของข่าวสารทางการเงิน
และในตอนนี้... ได้เวลานำทุกองค์ประกอบมารวมกัน เพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดแรกของคุณอย่างเป็นระบบ
ก่อนจะเริ่มวางกลยุทธ์การเทรดออนไลน์ของคุณสิ่งสำคัญคือการเข้าใจหลักคิดพื้นฐานทั้ง 5 ข้อนี้ให้ชัดเจน:
1. กลยุทธ์แรกของคุณจะไม่ใช่กลยุทธ์สุดท้าย
เมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น และเข้าใจตลาดดีขึ้นกลยุทธ์ของคุณก็จะพัฒนาไปด้วยความยืดหยุ่นและการปรับตัวคือกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว
2. ไม่จำเป็นต้องเดินตามกลยุทธ์ของคนอื่น
การเรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องดีแต่อย่าลืมว่ากลยุทธ์ที่เหมาะกับคุณควรสะท้อน เป้าหมาย ระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ และ จุดแข็งส่วนตัวของคุณเอง
3. กลยุทธ์แรกจะไม่ทำให้คุณรวยในชั่วข้ามคืน
การเทรดไม่ใช่ทางลัดสู่ความร่ำรวยแต่เป็น การเดินทางระยะยาว ตั้งความคาดหวังให้เป็นจริง และโฟกัสที่การเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง
4. ความผิดพลาดและการขาดทุนเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่มีเทรดเดอร์คนไหน ไม่เคยขาดทุน สิ่งสำคัญคือการ วิเคราะห์ข้อผิดพลาด ปรับปรุงกลยุทธ์ และศึกษาเรียนรู้อยู่เสมอ
5. การเทรดคือเส้นทางของการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อ่านหนังสือ ลงคอร์สเรียน ติดตามข่าว และวิเคราะห์ตลาดอยู่เสมอเพราะตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และคนที่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่จะปรับตัวและอยู่รอดได้
การเริ่มวางกลยุทธ์การเทรดครั้งแรกอาจดูน่ากังวลในตอนต้นแต่หากคุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ คุณจะสามารถ สร้างแผนการเทรดที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ได้อย่างมั่นใจ
ก่อนที่คุณจะเริ่มส่งคำสั่งซื้อขาย สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจ กลไกการทำงานของตลาด ซึ่งหมายถึงการศึกษาทิศทางของตลาด การเคลื่อนไหวของราคา และเทคนิคการวิเคราะห์ต่าง ๆ
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): เน้นการประเมิน มูลค่าที่แท้จริง ของบริษัทหรือสินทรัพย์ โดยพิจารณารายงานทางการเงิน แนวโน้มของอุตสาหกรรม และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): ใช้ข้อมูลราคาย้อนหลัง กราฟ และ Indicator ต่าง ๆ เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคต
ตัวอย่างเช่น: เทรดเดอร์ที่ใช้ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน อาจตัดสินใจซื้อหุ้นเพราะบริษัทมีกำไรสูงเกินคาด
ในขณะที่ เทรดเดอร์สายเทคนิค อาจตัดสินใจซื้อเพราะเห็น ราคาดีดกลับจากแนวรับ ในกราฟ
แม้คุณจะถนัดวิธีใดวิธีหนึ่งแต่การเข้าใจทั้งสองแนวทางจะช่วยเสริมการตัดสินใจให้แม่นยำยิ่งขึ้น
ในโลกการเงินมี ตลาดให้เลือกเทรดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ CFD แต่ละตลาดมีลักษณะเฉพาะ ความเสี่ยง และโอกาสที่แตกต่างกัน
เริ่มต้นจากการเลือก ตลาดทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่คุณสนใจก่อนแล้วจึงค่อยกระจายไปตลาดอื่น
ศึกษาว่า ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว ของราคาภายในตลาดนั้น
เรียนรู้ช่วงเวลาการซื้อขาย ความผันผวน และระดับสภาพคล่องของตลาด
ตัวอย่างเช่น: หากคุณเลือกเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ คุณจะต้องเข้าใจเรื่องคู่สกุลเงิน นโยบายของธนาคารกลาง และรายงานเศรษฐกิจระดับโลก
ตลาดแต่ละประเภทมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนกันให้เวลากับการเรียนรู้ แนวโน้มและความเสี่ยง เฉพาะของตลาดนั้นก่อนที่จะลงมือเทรดจริง
ลองถามตัวเองให้ชัดเจนว่า...
ฉันต้องการอะไรจากการเทรด? (สร้างผลตอบแทนระยะยาว รายได้เสริม หรืออิสรภาพทางการเงิน?)
ฉันสามารถแบ่งเวลาให้การเทรดได้มากแค่ไหน? (เทรดแบบเต็มเวลา พาร์ทไทม์ หรือแค่เทรดเป็นครั้งคราว?)
เป้าหมายผลกำไรต่อเดือนหรือต่อปีของฉันคือเท่าไหร่?
ตัวอย่างเช่น: ถ้าคุณต้องการผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวอาจเหมาะกับ การเทรดแบบถือสถานะระยะยาว (Position Trading) แต่ถ้าคุณมองหากำไรสั้น ๆ อย่างรวดเร็วอาจชอบ การเทรดแบบรายวัน (Day Trading) หรือ สไตล์ Scalping มากกว่า
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกำหนดแนวทางกลยุทธ์ของคุณรวมถึงการบริหารความเสี่ยงและการจัดการเวลาให้เหมาะสม
การเทรดคือเรื่องของความเสี่ยงและสิ่ง สำคัญคือ การรู้ว่าเรายอมขาดทุนได้มากแค่ไหน สำคัญพอ ๆ กับการรู้ว่าเราอยากได้กำไรเท่าไหร่
คุณควรตัดสินใจให้ชัดเจนว่า จะยอมเสี่ยงใช้เงินทุนเท่าไหร่ต่อการเทรดแต่ละครั้ง
หลักทั่วไปที่นิยมใช้ คือ ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1–2% ของเงินทุนทั้งหมดต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
และประเมิน ปฏิกิริยาทางอารมณ์ต่อการขาดทุน ของตัวเอง—คุณสามารถรับสถานการณ์ที่ขาดทุนต่อเนื่องได้ไหม โดยไม่ตัดสินใจแบบรีบเร่งหรือตามอารมณ์?
ตัวอย่าง: ถ้าคุณมีเงิน $1,000 ในบัญชีเทรด การเสี่ยง 2% ต่อการเทรด หมายถึงคุณควรตั้งขาดทุนสูงสุดไว้ที่ ไม่เกิน $20 ต่อครั้ง
หากการขาดทุนจากการเทรดทำให้คุณรู้สึกตื่นตระหนกให้ ปรับระดับความเสี่ยงลง จนกว่าคุณจะรู้สึกสบายใจ
กลยุทธ์ที่ดีควรระบุให้ชัดเจนว่า ควรเข้าเทรดเมื่อใด และ ออกจากเทรดเมื่อใด เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามอารมณ์ และยึด แนวทางที่มีโครงสร้างที่ชัดเจน
กฎการเข้าเทรด (Entry Rules): ระบุจุดเข้าให้ชัดเจน เช่น อ้างอิงจาก Indicator ทางเทคนิค , รูปแบบของราคา (Price Action) หรือข่าวสำคัญในตลาด
กฎการออกจากเทรด (Exit Rules): ระบุจุดที่ควรทำกำไรหรือยอมขาดทุน เช่น
คำสั่ง Stop-Loss: จุดที่ระบบจะปิดสถานะให้อัตโนมัติเพื่อลดการขาดทุน
คำสั่ง Take-Profit: ระดับราคาที่ตั้งไว้ล่วงหน้าเพื่อปิดสถานะเมื่อได้กำไรตามเป้าหมาย
ตัวอย่างเช่น : เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์อาจเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และตั้งเป้าปิดสถานะเมื่อราคาขึ้นไปแตะแนวต้าน หรือ RSI เข้าเขต Overbought
การมีกลยุทธ์การออกจากเทรดอย่างชัดเจนจะช่วยให้คุณไม่ตัดสินใจขายเพราะความตื่นตระหนก และสามารถล็อกกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนจะเสี่ยงด้วยเงินจริงให้ทดสอบกลยุทธ์ของคุณโดยใช้ ข้อมูลในอดีต เพื่อดูว่ากลยุทธ์นั้นจะให้ผลลัพธ์อย่างไรในสถานการณ์ตลาดต่าง ๆ กระบวนการนี้เรียกว่า การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting)
ใช้ บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อทดลองเทรด โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง
ปรับแต่งกลยุทธ์ตามผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลอง
บันทึกผลการเทรดเพื่อดูว่ากลยุทธ์ไหนใช้ได้ผลหรือจุดไหนควรปรับปรุง
ตัวอย่าง: ถ้าผลการ Backtest แสดงว่ากลยุทธ์ของคุณ ขาดทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง คุณอาจปรับกลยุทธ์โดยการ เพิ่มตัวกรองความผันผวนเข้าไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาดเหวี่ยงแรงเกินไป
กลยุทธ์ที่ผ่านการทดสอบมาแล้วจะช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นเมื่อซื้อขายด้วยเงินจริง
ข้อคิดส่งท้าย: ความสำเร็จในการเทรดต้องอาศัยความสม่ำเสมอ
กลยุทธ์การเทรดแรกของคุณเป็นเพียงจุดเริ่มต้นอย่าลืมปรับและพัฒนากลยุทธ์นั้นเมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น
ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนต้องอาศัยความอดทน มีวินัย และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ข้อผิดพลาดและการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์สิ่งเหล่านั้น และปรับปรุงให้ดีขึ้น
จงรักษาความมุ่งมั่นในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพราะตลาดการเงินเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และความรู้ของคุณก็ควรพัฒนาไปพร้อมกัน
ตอนนี้คุณได้เรียนจบบทเรียนทั้งหมดแล้วก็ถึงเวลานำความรู้ไปลงมือปฏิบัติจริง!
เริ่มต้นจากการเปิดบัญชีทดลอง แล้วทดลองใช้กลยุทธ์หลายๆแบบ จากนั้นค่อย ๆ ปรับแนวทางให้เหมาะกับตัวคุณเอง ขั้นตอนนี้ถือเป็นช่วงสำคัญในการสร้างความมั่นใจและสะสมประสบการณ์ก่อนจะเริ่มเทรดจริงด้วยเงินทุนจริงในตลาด
พจนานุกรมคำศัพท์ของเราช่วยอธิบายคำศัพท์การเทรดที่ซับซ้อนให้ง่ายต่อความเข้าใจ เรียนรู้คำสำคัญที่นักเทรดทุกคนควรรู้
อ่านบล็อกล่าสุดของเราเพื่อเรียนรู้เคล็ดลับการเทรด มุมมองตลาด และกลยุทธ์การเทรดจริง บล็อกของ XS จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูล แรงบันดาลใจ และพร้อมสำหรับการเทรด