Facebook Pixel
Logo

คอร์สการเทรดออนไลน์ของ XS

เพิ่มพูนความรู้ของคุณด้วยคอร์สการเทรดออนไลน์ฟรีจาก

โซลูชั่นก็อปปี้เทรด
หน้าหลัก   Breadcrumb right  คอร์   Breadcrumb right  คู่มือ แนะนำ การเทรดฟอเร็กซ์   Breadcrumb right  การวิเคราะห์ ทางเทคนิคใน ตลาดฟอเร็กซ์

การวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดฟอเร็กซ์

ในบทเรียนก่อนหน้านี้ เราได้เรียนรู้ พื้นฐาน ของการเทรดฟอเร็กซ์ไปแล้ว ทั้งโครงสร้างของตลาด การเคลื่อนไหวของราคา และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

ในบทนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ตลาด นั่นคือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ซึ่งเป็นวิธีที่เทรดเดอร์ใช้ดูข้อมูลราคาในอดีตเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต

เทรดเดอร์บางคนชื่นชอบการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างมาก ขณะที่บางคนก็ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมากกว่าแต่ในความเป็นจริงเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักใช้ ทั้งสองวิธีควบคู่กันเพื่อตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิคคืออะไร?

การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการดูการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตเพื่อหาแพทเทิร์นที่อาจเกิดซ้ำในอนาคต

พูดง่าย ๆ : คือวิธีคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคตโดยศึกษากราฟราคาเก่า ๆ และรูปแบบของตลาด

ต่างจาก การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ที่ดูปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่มีอิทธิพลต่อค่าสกุลเงิน การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเน้นไปที่:

  • กราฟราคา: ใช้ดูการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาต่าง ๆ

  • แนวโน้ม (Trends): วิเคราะห์ว่าราคาอยู่ในขาขึ้น ขาลง หรือเคลื่อนไหวในกรอบ

  • อินดิเคเตอร์ (Indicators): เครื่องมือช่วยวัดแรงส่ง ปริมาณการซื้อขาย และความผันผวนของตลาด

แม้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ไม่สามารถการันตีการเคลื่อนไหวในอนาคต แต่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถ ตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ โดยอิงจากจิตวิทยาตลาดและพฤติกรรมราคาในอดีต

 

ความสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรดฟอเร็กซ์

การวิเคราะห์ทางเทคนิคได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการเทรดฟอเร็กซ์ เพราะช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลรองรับจากข้อมูลราคาในอดีต

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญคือ การกำหนดจังหวะการเข้าและออกจากตลาด ช่วยให้เทรดเดอร์หาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าหรือออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ยังช่วยใน การระบุแนวโน้มตลาด ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางขาขึ้น ขาลง หรือเคลื่อนไหวในกรอบ

ที่สำคัญกว่านั้นคือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค ช่วยลดการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์ เพราะเทรดเดอร์ใช้ข้อมูลจริงและรูปแบบของราคา แทนที่จะเทรดตามความรู้สึกหรือความคาดเดา

ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์สังเกตว่า EUR/USD มักกลับทิศทางที่ระดับราคาเฉพาะเป็นประจำ นี่อาจเป็นสัญญาณของ แนวรับหรือแนวต้าน ช่วยให้วางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิคอิงอยู่บนหลักการต่อไปนี้:

 

ราคาสะท้อนข้อมูลทั้งหมดแล้ว (Market Action Discounts Everything)

แนวคิดนี้เชื่อว่า ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม ได้ถูกสะท้อนอยู่ในราคาสกุลเงินไปแล้ว แทนที่จะเน้นข่าวสาร เทรดเดอร์จะดูการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อประเมินว่าตลาดตอบสนองอย่างไร

 

ราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวเป็นเทรนด์ (Prices Move in Trends)

ราคามักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างต่อเนื่องคล้ายกับลูกบอลที่กลิ้งต่อเนื่องไปในทิศทางเดิม จนกว่าจะมีแรงบางอย่างมาหยุดหรือเปลี่ยนทิศทาง

แนวโน้มของราคาสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก:

  • ขาขึ้น (Uptrend): ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ขาลง (Downtrend): ราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

  • ไซด์เวย์ (Sideways): ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ โดยไม่มีทิศทางชัดเจน

 

ประวัติศาสตร์มักซ้ำรอย (History Tends to Repeat Itself)

เทรดเดอร์เชื่อว่า รูปแบบราคาบางอย่างเกิดขึ้นซ้ำตามเวลา เพราะจิตวิทยาของตลาด (ความกลัว ความโลภ ความมองโลกในแง่ดี) ยังคงเหมือนเดิม

โดยการศึกษากราฟในอดีต เทรดเดอร์พยายามคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

ตัวอย่าง: หากรูปแบบราคาแบบหนึ่งเคยนำไปสู่การปรับขึ้นในอดีต เทรดเดอร์ก็มักคาดหวังว่าเมื่อรูปแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้งก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คล้ายกันได้เช่นกัน

 

อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคในการเทรดฟอเร็กซ์

อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคเปรียบเสมือน กล่องเครื่องมือของเทรดเดอร์ ที่ช่วยวิเคราะห์กราฟ มองเห็นแนวโน้ม และระบุโอกาสการเทรด

ต่อไปนี้คือประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:

 

อินดิเคเตอร์แนวโน้ม

อินดิเคเตอร์เหล่านี้ช่วยระบุทิศทางของแนวโน้มตลาดว่าราคาโดยรวมกำลังเคลื่อนไหว ขึ้น, ลง, หรือ เคลื่อนที่ในกรอบ (ไซด์เวย์)

ตัวอย่าง: Moving Average  (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) เป็นอินดิเคเตอร์แนวโน้มที่ได้รับความนิยม แสดงค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงระยะเวลาหนึ่งช่วยให้มองเห็นแนวโน้มราคาได้ชัดเจนขึ้นโดยลดความผันผวนของข้อมูล

 

อินดิเคเตอร์โมเมนตัม

อินดิเคเตอร์โมเมนตั้มวัดความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของราคา ช่วยหาว่าแนวโน้มแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ

ตัวอย่าง: Relative Strength Index (RSI) เป็นอินดิเคเตอร์โมเมนตัมที่ใช้กันทั่วไป เคลื่อนไหวระหว่าง 0 ถึง 100 และสามารถบ่งชี้ได้ว่าสินทรัพย์อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought – ราคาสูงเกินพื้นฐาน)
หรือ ขายมากเกินไป (Oversold – ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน)

 

อินดิเคเตอร์ปริมาณ

อินดิเคเตอร์เหล่านี้ดูปริมาณการซื้อขาย (จำนวนสินทรัพย์การเงินที่ถูกซื้อและขาย) เพื่อทำความเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของราคามีแรงหนุนมากน้อยเพียงใด

ตัวอย่าง: On-Balance Volume (OBV)  เป็นอินดิเคเตอร์ที่นำปริมาณการซื้อขายมาบวกในวันที่ราคาขึ้น

และลบในวันที่ราคาลง โดยใช้เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคา จากกระแสของปริมาณ (Volume Flow)

เคล็ดลับ: ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่ให้สัญญาณที่แม่นยำ เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักใช้ หลายอินดิเคเตอร์ร่วมกัน เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และตัดสินใจเทรด

 

การวางแผนเทรดด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค

เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วถึงเวลาใช้ความรู้นี้มาสร้างแผนการเทรดฟอเร็กซ์ที่มีประสิทธิภาพ ด้านล่างคือ คู่มือที่ละขั้นตอนสำหรับการวางแผนเทรด โดยอิงจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างเป็นระบบและแม่นยำ

1. กำหนดเป้าหมายในการเทรด: ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ คุณต้องการเทรดเพื่อสร้างรายได้ระยะสั้น? เพื่อสะสมความมั่งคั่ง? หรือเพื่อฝึกเรียนรู้? เป้าหมายเหล่านี้ควรสามารถประเมินผลได้ชัดเจนในภายหลัง

2. วิเคราะห์ตลาด:

  • การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: แม้ว่าคุณจะเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่การมีมุมมองภาพรวมทางเศรษฐกิจจะช่วยให้ตัดสินใจได้รอบด้านขึ้น

  • เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค: เลือกอินดิเคเตอร์หรือรูปแบบกราฟที่คุณจะใช้ในการวิเคราะห์

3. สร้างกลยุทธ์การเทรด: กำหนดให้ชัดว่าจะเข้าเทรดเมื่อไร โดยยึดตามสิ่งที่เกิดบนกราฟเช่น: เข้าเทรดเมื่อราคาวิ่งขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) จากนั้นกำหนดให้ชัดเจนว่าจะออกจากการเทรดเมื่อไรทั้งในกรณีทำกำไร และกรณีที่ต้องตัดขาดทุน

4. บริหารความเสี่ยง: ตัดสินใจให้ชัดเจนว่าในแต่ละการเทรด คุณยอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน กฎทั่วไปคือ ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1–2% ของยอดเงินในบัญชีต่อครั้ง

5. ทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง: ใช้ข้อมูลราคาย้อนหลังเพื่อลองทดสอบกลยุทธ์ของคุณดูว่ากลยุทธ์ที่วางไว้นั้นให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรในสภาพตลาดจริงในอดีต

6. ทบทวนและปรับปรุง: ประเมินผลการเทรดและประสิทธิภาพของกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมที่จะปรับปรุงแผน หากตลาดเปลี่ยนแปลงหรือได้ข้อมูลใหม่ที่มีประโยชน์มากกว่าเดิม

แม้ไม่มีแผนใดที่การันตีความสำเร็จได้ แต่การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณรับมือกับตลาดได้อย่างมีระบบและมั่นใจมากขึ้น

 

สรุปบทเรียน

  • การวิเคราะห์ทางเทคนิค คือการศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินในอดีต เพื่อนำมาคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคต

  • หลักการสำคัญของการวิเคราะห์ทางเทคนิค:

    • ราคาสะท้อนข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว

    • ราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวเป็นเทรนด์

    • รูปแบบราคามักเกิดซ้ำตามเวลา

  • เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และ RSI มักถูกใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาและโมเมนตัมของตลาด

อย่าลืมว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เทรดเดอร์ที่ดีมักใช้ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างรอบด้าน

ในบทเรียนถัดไป เราจะพาไปดูตัวอย่างจริงของ การวิเคราะห์การเทรดในตลาดฟอเร็กซ์

ถัดไป: วิธีวิเคราะห์การเทรดตลาดฟอเร็กซ์
บทเรียนถัดไป

การเรียนรู้ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้

อ่านบล็อกล่าสุดของเราเพื่อเรียนรู้เคล็ดลับการเทรด มุมมองตลาด และกลยุทธ์การเทรดจริง บล็อกของ XS จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูล แรงบันดาลใจ และพร้อมสำหรับการเทรด