คอร์สการเทรดออนไลน์ของ XS

แนะนำพื้นฐานการเทรดฟอเร็กซ์

การเทรดฟอเร็กซ์ (Forex Trading) ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการเงินที่แพร่หลายและมีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก ตลาดนี้ดึงดูดนักเทรดหลายล้านคนตั้งแต่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่เทรดจากที่บ้าน

ในทุก ๆ วันจะมีการซื้อขายสกุลเงินจากทั่วโลกในตลาดที่ไม่เคยหยุดพัก ซึ่งสร้างโอกาสมากมายสำหรับผู้ที่รู้วิธีรับมือและวางกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง

คอร์สนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพาคุณเรียนรู้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงแนวคิดที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างเป็นลำดับ

ในบทเรียนนี้ เราจะพาคุณทำความเข้าใจหลักการเบื้องต้นของการเทรดฟอเร็กซ์ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งก่อนเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

การเทรดฟอเร็กซ์คืออะไร?

คำว่า Forex (ย่อมาจาก "Foreign Exchange") หมายถึง การซื้อสกุลเงินหนึ่งพร้อมกับขายอีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน

การทำธุรกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในตลาดโลกที่ไม่มีศูนย์กลาง (Decentralized Market) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งโดยทั่วไปจะให้บริการโดยโบรกเกอร์

ให้ลองนึกภาพว่าตลาดฟอเร็กซ์ก็คล้ายกับระบบแลกเปลี่ยนเงินตราขนาดใหญ่แต่แทนที่จะแลกเงินไว้ใช้สำหรับการเดินทาง ผู้เทรดมุ่งหวังจะทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่างๆ

แนวคิดพื้นฐานของการเทรดฟอเร็กซ์

ก่อนที่เราจะไปไกลกว่านี้ มาทำความรู้จักคำศัพท์สำคัญที่นักเทรดฟอเร็กซ์ทุกคนควรรู้กันก่อน

คู่สกุลเงิน (Currency Pairs)

ในตลาดฟอเร็กซ์ สกุลเงินจะถูกซื้อขายเป็นคู่ ซึ่งเรียกว่า “คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์” เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)

• สกุลเงินตัวแรกในคู่ เรียกว่า สกุลเงินหลัก (Base Currency) – ในกรณีนี้คือ EUR

• สกุลเงินตัวที่สอง เรียกว่า สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency) – คือ USD

• อัตราแลกเปลี่ยนจะแสดงให้เห็นว่า ต้องใช้เงินกี่หน่วยของสกุลเงินอ้างอิงเพื่อซื้อ 1 หน่วยของสกุลเงินหลัก

ตัวอย่าง: ถ้า EUR/USD = 1.13 นั่นหมายความว่า 1 ยูโร เท่ากับ 1.13 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask)

เมื่อคุณทำการเทรดฟอเร็กซ์ คุณจะเห็นราคาสองตัวเสมอ:

• ราคาซื้อ (Bid): คือราคาที่คุณสามารถขายสกุลเงินหลักได้

• ราคาขาย (Ask): คือราคาที่คุณสามารถซื้อสกุลเงินหลักได้

ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายนี้เรียกว่า สเปรด (Spread) และนั่นคือช่องทางที่โบรกเกอร์อย่างเช่น XS.com ใช้ในการสร้างรายได้

ตัวอย่าง: หาก EUR/USD มีราคาซื้อ (Bid) อยู่ที่ 1.199 และราคาขาย (Ask) อยู่ที่ 1.201 ส่วนต่างระหว่างราคาทั้งสองคือ 2 พิป (Pip) ซึ่งจะอธิบายด้านล่างนี้

เลเวอเรจและมาร์จิ้น (Leverage and Margin)

หนึ่งในเหตุผลที่การเทรดฟอเร็กซ์ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ เลเวอเรจ การเทรดแบบใช้เลเวอเรจช่วยให้คุณสามารถควบคุมสถานะการซื้อขายขนาดใหญ่ได้ด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย

เลเวอเรจมักจะแสดงในรูปของอัตราส่วน เช่น 100:1, 50:1 เป็นต้น

• หากคุณใช้ เลเวอเรจ 100:1 คุณสามารถควบคุมการเทรด มูลค่า $100,000 ได้ด้วยเงินทุนของตัวเอง เพียง $1,000

• มาร์จิ้น คือจำนวนเงินที่จำเป็นต้องมีอยู่ในบัญชีของคุณเพื่อเปิดคำสั่งเทรดที่ใช้เลเวอเรจ

อย่างไรก็ตาม แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มกำไรได้แต่ก็สามารถขยายการขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้นคุณควรใช้เลเวอเรจด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

พิปส์และล็อต (Pips and Lots)

Pip คือหน่วยการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เล็กที่สุดในคู่สกุลเงิน โดยทั่วไปราคาของคู่สกุลเงินจะถูกระบุถึงทศนิยม 4 ตำแหน่ง และพิปคือตำแหน่งทศนิยมสุดท้าย

ตัวอย่าง: หากคู่สกุลเงิน GBP/USD ขยับจาก 1.3000 ไปเป็น 1.3001 การเพิ่มขึ้น 0.0001 นี้เรียกว่า      1 พิป

ล็อต (Lot): Lot คือขนาดมาตรฐานของคำสั่งเทรดในตลาดฟอเร็กซ์

• Standard Lot = 100,000 หน่วย

• Mini Lot = 10,000 หน่วย

• Micro Lot = 1,000 หน่วย

การเปิดสถานะซื้อและขาย (Long and Short Positions)

เมื่อคุณ เปิดสถานะซื้อ (Go Long) คุณกำลังซื้อสกุลเงินหลัก และคาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น

ในทางกลับกันเมื่อคุณ เปิดสถานะขาย (Go Short) คุณกำลังขายสกุลเงินหลัก โดยคาดว่าราคาจะลดลง

ตัวอย่าง:

• หากคุณคิดว่า EUR จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ USD → คุณเปิดสถานะ Long ในคู่ EUR/USD

• หากคุณคิดว่า EUR จะลดลง → คุณเปิดสถานะ Short ในคู่ EUR/USD

การเทรดฟอเร็กซ์มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานแล้วมาดูกันว่าการเทรดฟอเร็กซ์มีขั้นตอนอย่างไรในทางปฏิบัติ

ในฟอเร็กซ์เป้าหมายของคุณคือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นซื้อเมื่อคาดว่าสกุลเงินจะเพิ่มขึ้นและขายเมื่อคาดว่าจะลดลง

เพื่อให้เข้าใจภาพรวมได้ชัดเจนขึ้นลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างการเทรด: การซื้อ EUR/USD

ลองนึกภาพว่าเทรดเดอร์เชื่อว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

เขาตัดสินใจ ซื้อคู่สกุลเงิน EUR/USD ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1.1200

• ขั้นตอนที่ 1: เปิดคำสั่งซื้อ

  • เทรดเดอร์ซื้อ 1 ล็อต (100,000 หน่วย) ของ EUR/USD ที่ราคา 1.1200

  • เนื่องจากใช้ เลเวอเรจ 100:1 เขาต้องใช้เงินของตัวเอง เพียง $1,000 เพื่อควบคุมการเทรด มูลค่า $100,000

• ขั้นตอนที่ 2: การเคลื่อนไหวของตลาด

  • หากอัตราแลกเปลี่ยน เพิ่มขึ้นไปที่ 1.1300 ยูโรจะแข็งค่าขึ้น

  • หากเทรดเดอร์ขายในราคานี้เขาจะได้กำไรจาก ส่วนต่าง 100 พิป (1.1300 - 1.1200)

• ขั้นตอนที่ 3: ปิดคำสั่งซื้อ

  • การขายที่ 1.1300 หมายความว่าเขา แลกยูโรกลับเป็น USD ในอัตราที่สูงขึ้น ทำให้ได้กำไร

  • แต่หากราคาลดลงแทนเทรดเดอร์ก็จะขาดทุนจากส่วนต่างเช่นเดียวกัน

ทำความเข้าใจตลาดฟอเร็กซ์

การเทรดฟอเร็กซ์เกิดขึ้นในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แตกต่างจากตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ไม่มีตลาดกลาง แต่ดำเนินการแบบ ตลาดซื้อขายนอกตลาดหลัก (OTC) หมายความว่าการทำธุรกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายของธนาคาร โบรกเกอร์ และเทรดเดอร์

ทำไมตลาดฟอเร็กซ์ถึงมีความสำคัญ?

ตลาดฟอเร็กซ์มีบทบาทสำคัญต่อการค้าและการลงทุนทั่วโลก โดย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ธุรกิจ นักลงทุน และรัฐบาลสามารถทำการค้าระหว่างประเทศได้

การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์

คุณสามารถใช้วิธีการต่างๆ เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา:

1. การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):

   • เน้นปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่ส่งผลต่อมูลค่าสกุลเงิน

   • ตัวอย่าง: อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ เสถียรภาพทางการเมือง

2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):

   • ใช้ข้อมูลราคาในอดีตและกราฟเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต

   • ตัวอย่าง: เส้นแนวโน้ม ระดับแนวรับ/แนวต้าน อินดิเคเตอร์

ทั้งสองวิธีสามารถนำมาใช้ได้ และเทรดเดอร์จำนวนมากใช้ทั้งสองวิธีร่วมกัน

ความเสี่ยงและข้อดีของการเทรด Forex

เช่นเดียวกับตลาดการเงินอื่นๆ ฟอเร็กซ์มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง

ข้อดี

• สภาพคล่องสูง: คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินได้ง่ายเพราะตลาดมีขนาดใหญ่มาก

• ใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อย: ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการเริ่มต้นเทรด

• เทรดได้ทุกเวลา: เปิดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

• ทำกำไรได้ทุกสถานการณ์: สามารถทำเงินได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง

ความเสี่ยง

• ความผันผวนสูง: ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจนำไปสู่กำไรหรือขาดทุนครั้งใหญ่

• ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ: แม้เลเวอเรจจะเพิ่มกำไรได้แต่ก็สามารถเพิ่มการขาดทุนได้เช่นกัน

• ตลาดที่ซับซ้อน: ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกเพื่อความสำเร็จ

• การเทรดตามอารมณ์: ความกลัวและความโลภอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด

สรุปบทเรียน

• การเทรดฟอเร็กซ์คือการซื้อขายสกุลเงินเป็นคู่

• ดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด

• แนวคิดสำคัญรวมถึง คู่สกุลเงิน ราคาซื้อ/ขาย เลเวอเรจ พิป และขนาดล็อต

• คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดได้ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค

ในบทเรียนถัดไป เราจะศึกษาเรื่อง คู่สกุลเงินฟอเร็กซ